จำนวนผู้เสียชีวิตในสงครามกาซา ซึ่งดำเนินมานานกว่า 17 เดือน เพิ่มขึ้นจนมากกว่า 50,000 ศพแล้ว หลังอิสราเอลกลับมาโจมตีกลุ่มฮามาสอีกครั้งในสัปดาห์ก่อน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานในวันที่ 23 มี.ค. 2568 ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในการต่อสู้ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา นับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2566 เพิ่มขึ้นจนมากกว่า 50,000 ศพแล้ว หลังจากอิสราเอลหวนกลับไปโจมตีในฉนวนกาซาอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ก่อน และเตือนว่าจะโจมตีหนักขึ้นเรื่อยๆ
กระทรวงสาธารณสุขในกาซา ซึ่งควบคุมโดยกลุ่มฮามาสระบุในวันอาทิตย์ว่า การโจมตีของอิสราเอลในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอี 41 ศพ ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 50,021 ศพ
เจ้าหน้าที่ในกาซาไม่ได้จำแนกว่าผู้เสียชีวิตเป็นพลเรือนหรือนักรบของกลุ่มฮามาส แต่กระทรวงสาธารณสุขกับสหประชาชาติระบุว่า ผู้เคราะห์ร้ายส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงกับเด็ก และจำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริงอาจสูงกว่านี้มาก เพราะเชื่อว่ายังมีศพนับพันร่างอยู่ภายใต้ซากปรักหักพัง
ด้านกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) ออกมาปฏิเสธตัวเลขผู้เสียชีวิตดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นตัวเลขที่เต็มไปด้วยความไม่สอดคล้องและการคำนวณที่ผิดพลาด และว่ากระทรวงสาธารณสุขของฮามาส มักบันทึกรวมการเสียชีวิตที่ไม่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้เอาไว้ด้วย เช่นการเสียชีวิตด้วยสาเหตุธรรมชาติ
IDF เสริมอีกว่า พวกเขามุ่งมั่นที่จะลดความเสียหายต่อพลเรือนให้มากที่สุดระหว่างดำเนินปฏิบัติการอย่างเข้มงวดตามกฎหมมายระหว่างประเทศ และแยกแยะระหว่างพลเรือนกับนักรบติดอาวุธ ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและค่านิยมของพวกเขา
ทั้งนี้ การกลับมาโจมตีฉนวนกาซาอีกครั้งของอิสราเอล ทำให้การหยุดยิงที่ดำเนินมานานราว 2 เดือนสิ้นสุดลง หลังทั้งสองฝ่ายพยายามเจรจาแต่ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากฝ่ายอิสราเอลต้องการขยายข้อตกลงหยุดยิงเฟสที่ 1 ออกไปก่อน ขณะที่ฝ่ายฮามาสต้องการก้าวเข้าสู่การหยุดยิงเฟสที่ 2 เพื่อให้อิสราเอลถอนทัพออกจากกาซาตามที่คุยกันไว้
โฆษกรัฐบาลอิสราเอลกล่าวโทษกลุ่มฮามาสมาเป็นต้นเหตุที่พวกเขาต้องหวนกลับมาโจมตีอีกครั้ง โดยระบุว่า ฮามาสปฏิเสธข้อเสนอเกี่ยวกับการปล่อยตัวประกันทั้งหมด ข้อเสนอจากประเทศตัวกลางเจรจาอย่างสหรัฐฯ กับชาติอื่นๆ