ตำรวจ สน.เตาปูน เตรียมออกหมายเรียก สว.คนดัง เข้ามาให้ปากคำ หลังถูกกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศอดีตผู้ประกาศข่าวสาว พบประวัติเคยถูกดำเนินคดีร่วมกันลักทรัพย์ ศาลนัดไต่สวนพยาน 6 ส.ค. นี้ Source link

มาถึงสถานีทดสอบความเร็วแบบเต็มรอบ Continental อ้างเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ SportContact 7 ใหม่เมื่อเปิดตัวยางสปอร์ตรุ่นเรือธงนี้เมื่อปลายปี 2022  เปรียบเทียบกับ SportContact 6 ผู้เชี่ยวชาญของ Continental กล่าวว่า SportContact 7 ถูกปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น  ในการขับขี่ทั้งบนถนนเปียกและแห้ง  สนามทดสอบซึ่งใช้สนามพีระ เซอร์กิต เพื่อโชว์ประสิทธิภาพการปรับปรุงที่มีความสำคัญ เทียบกับ SportContact 6  โดยเฉพาะในการขับขี่บนถนนเปียก  แน่นอนว่ายางใหม่นั้นดีกว่ารุ่นก่อน และก็เป็นเช่นนั้นเสมอจากเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง  ยางทั้งหมดที่อยู่ในรถทดสอบ CLS 220d และ AMG CLS 53 มีขนาด 255/35ZR20 ที่ล้อหน้า และ  275/30ZR20 XL ที่ล้อหลัวซึ่งระบุค่าพิกัดยางตามมาตรฐานเอาไว้ สำหรับการเบรกบนถนนเปียก (WG) และความประหยัดน้ำมัน (RR) A ถือเป็นค่าที่ดีที่สุด และสำหรับเสียงที่ดังจากการขับเคลื่อนบนยางแก้มเตี้ยนั้นยิ่งน้อยก็ยิ่งดี   ประสิทธิภาพในการขับขี่บนแทรคที่แห้งสนิท มีอุณหภูมิผิวพื้นเฉลี่ย 47 องศา  ประเมินจากส่วนหนึ่งของสนามทดสอบการควบคุมรถในพีระเซอร์กิต ซึ่งรู้กันดีว่าเป็นสนามความเร็วต่ำที่ไม่ให้อภัยต่อความผิดพลาดทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นจากความเร็ว พีระ มีโค้งยาว โค้งหักศอก เนินที่มีการเปลี่ยนแปลงระดับความสูง รวมถึงการเบรกที่ความเร็วสูง 120 กม./ชม.  SportContact 7 ทำได้ดี โดยเฉพาะการวิ่งเต็มรอบสนามด้วยสปีดความเร็วที่มากกว่าปกติ การยึดเกาะในโค้ง 100R แก้มยางที่ดูเหมือนจะนิ่มตามสไตล์ของ Continental แต่อาการบิดตัวของแก้มยางไม่มาก ทำให้การมุดเข้าออกโค้งมุมแคบในพีระเต็มไปด้วยความสนุกตื่นเต้น  ใน CLS220d AMG และ CLS53 4Matic+  แน่นอนว่ายางรุ่นใหม่มักมีประสิทธิภาพดีกว่ารุ่นเดิม แต่ช่องว่างระหว่างยางใหม่กับยางรุ่นเก่านั้นน้อยมาก จนหลายๆ รุ่นที่เปิดตัวใหม่ไม่สามารถเปรียบเทียบได้ ไม่เหมือนกับ  SportContact 7 ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว และเมื่อเปรียบเทียบยางรุ่นเก่าอย่าง SportContact 6 ที่อยู่ในรถทดสอบ Audi Q8 TFSIe Quattro S Line Edition one กับรุ่นใหม่  ก็รู้ว่าทำไม Continental จึงค้นพบสิ่งที่แตกต่างอย่างแท้จริงจากยางรุ่นใหม่ แม้แต่สื่อที่ไม่ใส่ใจกับการจับอาการของรถก็ยังสัมผัสได้ถึงความแตกต่างที่เกิดขึ้นขณะขับเข้าโค้ง Continental SC7 ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งและแม่นยำ เกาะถนนดี เปลี่ยนทิศทางได้อย่างมั่นใจ  เข้าโค้งได้เนียนทุกโค้ง ส่วนหน้ายางหลังที่ลื่นออกด้านนอกเมื่อถึงขีดจำกัด ก็แค่ลดคันเร่งลงเล็กน้อย  ส่วนโค้งที่เร็วที่สุดยาง  SportContact 7  รุ่นนี้ก็ยังทำให้รถมีความสมดุล (เมื่อทำงานร่วมกับช่วงล่าง)  การจับเวลาต่อรอบอาจเสี่ยงเกินไปในพีระ แค่ขับเร็วในรอบท้ายๆ ก็สามารถรับรู้ได้เลยว่า SportContact 7 มีประสิทธิภาพสูสีกับ Pilot Sport 5 หรือแม้แต่ Potenza S007A  Continental SportContact 7  รับมือกับการกระแทกที่ทั้งยืดและยุบตัวได้ดีในผิวแทรคสุดคลาสสิกของพีระเซอร์กิตซึ่งไม่ค่อยจะเรียบเท่าที่ควร ยางและช่วงล่าง ช่วยลดแรงกระแทกและเสียงที่เกิดจากการอัดอย่างหนักหน่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองต่อการบังคับทิศทางได้ดี (แม้จะโดนรถครูฝึกคันนำทิ้งห่างไปไกลลิบ) ยางเลี้ยวได้อย่างตรงไปตรงมา และไม่มีเสียงดังมากนั้นเมื่อขับด้วยความเร็วประมาณ 90-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  เสียงรบกวนในย่านความเร็วสูงโดนกลบด้วยเสียงคำรามของเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงเทอร์โบใน CLS53 สำหรับเรื่องเสียงของยางในย่านความเร็วสูงก็มีบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติทั่วไปของยางสปอร์ตแก้มเตี้ย จะให้เงียบแบบยางบ้านๆคงยาก บนพื้นผิวที่หยาบ หรือขับผ่านเอเปค มันเหมือนคุณกำลังขับทับหรือปีนฝาปิดท่อระบายน้ำที่มีขอบสูง!!   ...

เกิดเหตุน้ำท่วมรุนแรงบริเวณชายแดนเนปาลกับจีน กระแสน้ำพัดพาบ้านเรือนไปหลายหลัง และทำให้หนึ่งในสะพานเชื่อมระหว่าง 2 ประเทศขาด พบผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ศพ สูญหายอีก 31 คน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 8 ก.ค. 2568 ว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้เกิดน้ำท่วมหมู่บ้านต่างๆ บริเวณหุบเขาหิมาลัย ระหว่างประเทศเนปาลกับจีน ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 8 ศพ สูญหายอีก 31 คน โดยมวลน้ำมหาศาลซัดสะพานข้ามแม่น้ำโภเตโกชี (Bhotekoshi) ที่เชื่อมระหว่างเนปาลกับจีนจนขาด กระแสน้ำยังพัดพาบ้านเรือนหลายหลัง กับรถบรรทุกอีกหลายคันที่จอดรอการตรวจสอบทางศุลกากรบริเวณด่านชายแดน รถยนต์ไฟฟ้าหลายร้อยคันที่นำเข้าจากจีนก็จอดอยู่บริเวณด่านชายแดนดังกล่าวด้วย ตอนนี้ประเทศในเอเชียใต้กำลังเผชิญกับเหตุน้ำท่วมและดินถล่มหลายจุด เนื่องจากอยู่ในฤดูมรสุมช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน โฆษกตำรวจเนปาลบอกกับสำนักข่าว เอเอฟพี ว่า เจ้าหน้าที่กำลังมุ่งเน้นในปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือ โดยจนถึงตอนนี้พวกเขาช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้แล้ว 57 คน ด้านสถานีโทรทัศน์ ซีซีทีวี (CCTV) ของจีน รายงานว่า เกิดหายนะโคลนถล่มบริเวณชายแดนเมื่อตอนรุ่งเช้าวันอังคาร ทำให้มีผู้สูญหาย 11 คนในฝั่งจีน ขณะที่ในฝั่งเนปาล มีคนงานก่อสร้างชาวจีนสูญหายไป 6 คนด้วย ตำรวจเนปาลบอกด้วยว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยลงพื้นที่แล้ว 95 คน และคาดว่าจะมีตามมาอีก ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพกำลังถูกใช้เพื่อช่วยอพยพผู้ที่ติดค้างเพราะน้ำท่วม Source link

เพจ CSI LA เตรียมตั้ง ทนายอั๋นบุรีรัมย์ ฟ้องกลับ “หลวงพ่อมหาน้อย” เจ้าอาวาสวัดดังบุรีรัมย์ที่มีภาพเปลือยหลุด ถูกแฉพฤติกรรมชอบเสพเมถุนแบบชายรักชาย ฐานแจ้งความเท็จ หลังยอมรับภาพหลุดเป็นภาพตัวเองจริงไม่ใช่ AI ยันมีคนส่งภาพมาร้องเรียนเพจจริง พร้อมจี้ให้หน่วยงานภาครัฐตรวจสอบเส้นเงินบริจาค อาจเข้าข่ายฟอกเงิน ด้านทนายอั๋น เผยหากหลวงพ่อละกิเลสไม่ได้ ก็ควรสึกเป็นคนธรรมดา มาทำในสิ่งที่อยากทำ เปิดคณะหมอลำ วงดนตรีต่างๆ ตามที่ใจปรารถนา จะได้ไม่ทำศาสนาเสื่อมเสีย จากกรณีที่เพจดัง CSI LA โพสต์ภาพเปลือยของพระนักเทศน์รูปหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่า “หลวงพ่อมหาน้อย: ตอนที่ 1 มีผู้ร้องเรียนเข้ามา (ภาค 2 มาแล้ว) มีภาพหลุดของพระรูปหนึ่ง ที่มีใบหน้าและรูปร่างคล้ายกับ “หลวงพ่อมหาน้อย” พระนักเทศน์ชื่อดังจากจังหวัดบุรีรัมย์ โดยภาพดังกล่าวมีลักษณะส่อไปในทางเชิญชวนชายรักชาย ซึ่งอาจเข้าข่ายขัดต่อพระธรรมวินัยอย่างร้ายแรง ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าพระในภาพคือหลวงพ่อมหาน้อยจริงหรือไม่ เพื่อความโปร่งใส และไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคม จึงขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ – สำนักงานพระพุทธศาสนา – เจ้าคณะจังหวัด – สื่อมวลชนช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้โดยเร็ว เพื่อปกป้องศรัทธาของพุทธศาสนิกชน และป้องกันการแอบอ้างหาผลประโยชน์ในคราบผ้าเหลือง #ตรวจสอบก่อนเชื่อ #พระสงฆ์ต้องโปร่งใส #ศรัทธาต้องไม่ถูกหลอก #สำนักพุทธศาสนา #เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ หลังมีการโพสต์และแชร์ภาพดังกล่าวออกไป หลวงพ่อมหาน้อย ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นพระในรูป ก็มอบอำนาจให้ทนายความ เข้าแจ้งความที่ สภ.โนนดินแดง เพื่อเอาผิดกับเพจดังกล่าวที่นำรูปไปโพสต์ ทำให้เสียหาย ฐานหมิ่นประมาท และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 ที่ จ.บุรีรัมย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดทราบว่าทางเพจ CSI LA ได้ประสานไปยัง “ทนายอั๋นบุรีรัมย์” เพื่อเตรียมแต่งตั้งเป็นทนายความในการต่อสู้คดีที่ถูกทนายของเจ้าอาวาสแจ้งความ พร้อมทั้งได้ประสานให้ทนายอั๋น ฟ้องกลับเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวด้วย ฐานแจ้งความเท็จ เพราะหลังจากที่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนา และคณะสงฆ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น เจ้าอาวาสรูปดังกล่าวก็ยอมรับว่าภาพที่มีการโพสต์เป็นรูปตัวเองจริง เนื่องจากรอยสักที่แผ่นหลังตรงกัน ไม่ใช่ภาพตัดต่อ โดยทางเพจยืนยันผ่านการพูดคุยทางโทรศัพท์ว่า มีตัวตนผู้ที่ส่งภาพมาร้องเรียนจริง แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะเรื่องความปลอดภัย โดยผู้ร้องได้ให้ข้อมูลว่าเจ้าอาวาสมีพฤติกรรมชอบจ้างผู้ชายไปมีเพศสัมพันธ์แบบชายรักชาย ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดวินัยสงฆ์ นอกจากนั้นยังมีพฤติกรรมไม่โปร่งใสในการใช้เงินบริจาค หรืออาจจะเข้าข่ายการฟอกเงินด้วย อาทิ มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ แล้วทุบทิ้งสร้างใหม่ เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินบริจาค ทั้งมีการทำคอนเทนต์ ว่าช่วยเหลือญาติโยมที่ยากไร้ แต่บางเคสก็ไม่ได้มีการช่วยเหลือจริง แต่มีการรับบริจาค จึงได้เรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบเส้นทางการเงินของเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวด้วย ด้านนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋นบุรีรัมย์ ระบุว่า ได้รับการติดต่อจาก เพจ CSI LA ให้ช่วยเป็นทนายความในการต่อสู้คดี กรณีที่ถูกทนายของเจ้าอาวาสวัดดังที่ภาพเปลือยหลุด และมอบหมายให้ประสานกับหน่วยงานภาครัฐ ตรวจสอบเส้นทางการเงินบริจาคของเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวด้วย เพราะมีคนให้ข้อมูลว่าเจ้าอาวาสรูปนี้ใช้ผ้าเหลืองหากินกับเงินบริจาค มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างแล้วทุบทิ้ง มีการทำคอนเทนต์จะช่วยเหลือคนนั้นคนนี้ แต่ไม่ได้มีการช่วยเหลือจริง แต่อาจมีพฤติกรรมการฟอกเงินด้วย ซึ่งกรณีดังกล่าวก็จะมีการลงพื้นที่ไปดูข้อเท็จจริงด้วยตัวเองด้วย ทนายอั๋น ยังบอกอีกว่า ทราบว่าตอนนี้เจ้าอาวาสอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหากท่านเดินทางกลับมาถึงวันไหน ก็อยากแนะนำให้ท่านสึกมาในสภาพที่เป็นคนธรรมดา และมาทำในสิ่งที่อยากทำ เช่น เปิดคณะหมอลำ วงดนตรีต่างๆ ตามที่ใจปรารถนาจะดีกว่า โดยเฉพาะหากชอบรสนิยมทางเพศ ซึ่งมันเป็นเรื่องของคนธรรมดา แต่ท่านเป็นพระไม่สามารถกระทำได้ กิเลสมีในมนุษย์ทุกคน แต่หากละซึ่งกิเลสไม่ได้ก็ไม่ควรไปบวชเป็นพระ เพราะจะทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย ส่วนภาพเปลือยที่หลุดออกมา แม้ท่านจะอ้างว่าถ่ายเก็บไว้เอง แต่ในฐานะที่ท่านอยู่ในผ้าเหลือง ก็ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ที่สำคัญภาพนี้ถูกส่งไปร้องทางเพจก็ต้องมีคนส่งไปแน่นอน ส่วนเรื่องเส้นเงินบริจาคก็จะมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบตามขั้นตอน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม พรุ่งนี้ 9...

***แฟ้มภาพ*** ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ เผยแต่งตั้งนายพลวาระปี 2568 ไม่เลื่อน แม้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ – บิ๊กอ้วน รองนายกฯ รักษาการแทนได้ เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ใจความว่า การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ วาระประจำปี 2568 ตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2567 ข้อ 7 การแต่งตั้ง ตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. และจตช. ลงมาถึง ผบก.ให้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป และ ก.ตร.พิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ส.ค.ของทุกปี การดำเนินการจะเริ่มจาก การประกาศอาวุโส การเสนอชื่อจากผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด การพิจารณาคณะกรรมการระดับกองบัญชาการ การพิจารณาคณะกรรมการระดับ ตร.และนำเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เพื่อให้ความเห็นชอบ และนายกรัฐมนตรีจะนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงโปรดเกล้าแต่งตั้งฯ ต่อไป การแต่งตั้งระดับ รอง ผบก.ลงมาถึง สว. ให้ดำเนินการในห้วงระยะเวลา ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. และให้ออกคำสั่งแต่งตั้งภายใน 30 พ.ย. ของทุกปี การแต่งตั้งระดับ รอง สว.ถึง ผบ.หมู่ ในอำนาจ ผบ.ตร.หรือ ผบช.ให้ดำเนินการในห้วงเวลาระยะเวลา ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.เป็นต้นไป โดยให้ออกคำสั่งให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ม.ค.ในปีถัดไป โดยหากเป็นการแต่งตั้งในอำนาจ ผบก.ให้ดำเนินการในห้วงระยะเวลา ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. ออกคำสั่งให้เสร็จภายในเดือน ก.พ. ของทุกปี การดำเนินการแต่งตั้ง จึงเป็นความรับผิดชอบของผู้มีหน้าที่และอำนาจในการดำเนินการให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด การเลื่อนระยะเวลาการแต่งตั้งวาระประจำปี จะกระทำมิได้ ยกเว้นจะเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในกฎ ก.ตร. การแต่งตั้งนอกวาระประจำปีจะกระทำมิได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่มีเหตุผลความจำเป็นของทางราชการอย่างยิ่ง โดยต้องได้รับความเห็นชอบจาก ก.ตร. เหตุผลความจำเป็นของทางราชการ หมายความว่า เหตุที่จะต้องดำเนินการคัดเลือกหรือแต่งตั้ง ไม่ว่ากรณีเพื่อประโยชน์ หรือเพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ ดังนั้นขณะนี้ แม้ว่านายกรัฐมนตรีถูกคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ประธานก.ตร. แต่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรี ก็มีหน้าที่ในฐานะผู้รักษาการที่จะต้องรับผิดชอบปฏิบัติหน้าที่ประธาน ก.ตร. ในการประชุมการแต่งตั้งดังกล่าว เมื่อรองนายกรัฐมนตรีผู้รักษาการแทนนายกรัฐมนตรีสามารถปฏิบัติหน้าที่ประธาน ก.ตร.แทนได้ จึงไม่ใช่เหตุผลความจำเป็นต้องเลื่อนการแต่งตั้งวาระประจำปี 2568 แต่อย่างใด สำหรับการแต่งตั้งวาระประจำปี 2568 ก.ตร. ในการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 5/2568 เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2568 มีมติรับทราบตามที่ ตร. กำหนดหลักเกณฑ์การประเมินเพื่อใช้ประกอบการจัดทำข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ระดับ ผบช. และจชต. ลงมาถึง ผบก. ในกลุ่มผู้มีความรู้ความสามารถร้อยละ 50 ของตำแหน่งว่าง ให้พิจารณาโดยคำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน โดยมีการกำหนดแบบประเมิน (หลักเกณฑ์และตัวชี้วัดต่างๆ) เป็นเครื่องมือให้ผู้บังคับบัญชาคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ให้มีมาตรฐานสำหรับการใช้ดุลยพินิจ 1.การประเมินผลการปฏิบัติราชการดังกล่าว ประกอบด้วย คุณภาพผลการปฏิบัติงาน งานบรรลุผลสำเร็จโดยเร็ว และการติดตามผลสัมฤทธิ์ของงาน 2.ศักยภาพ อันได้แก่ ภาวะผู้นำ ความรู้ระเบียบกฎหมาย...

รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมแจกเงินสดให้ประชาชนทุกคน เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค.นี้ โดยแต่ละคนจะได้รับเงินสูงสุด 150,000 วอน หรือราว 4,050 บาท พร้อมมีเงินเพิ่มพิเศษให้กลุ่มเปราะบาง คนต่างจังหวัด และพื้นที่ประชากรลด ตามแผนกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ วันที่ 7 กรกฎาคม 2568 สำนักข่าวยอนฮับ รายงานว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศเริ่มแจกเงินสดให้กับประชาชนทุกคนในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคมเป็นต้นไป ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ภายใต้รัฐบาลขอประธานาธิบดีอี แจ-มยอง  รายงานข่าวระบุว่า มาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการใช้งบประมาณเสริมพิเศษมูลค่า 31.8 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 865,000 ล้านบาท ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา ภายใต้โครงการนี้ ประชาชนชาวเกาหลีใต้ทุกคนที่มีถิ่นพำนักในประเทศ ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2568 จะได้รับเงินสดจำนวน 150,000 วอน หรือประมาณ 4,050 บาท ต่อคน โดยสามารถเลือกรับเงินในรูปแบบบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรเติมเงิน หรือคูปองอิเล็กทรอนิกส์ของรัฐบาลท้องถิ่น นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีการช่วยเหลือเพิ่มเติมพิเศษแก่กลุ่มรายได้น้อยและประชาชนในพื้นที่ชนบท อาทิกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวจะได้รับเพิ่ม 300,000 วอน ประมาณ 8,100 บาท ในส่วนของผู้รับเงินสวัสดิการขั้นพื้นฐานจะได้รับเพิ่ม 400,000 วอน หรือประมาณ 10,800 บาท ในขณะที่ผู้ที่อยู่นอกเขตมหานครโซล (รวมถึงจังหวัดคยองกีและอินชอน) จะได้รับเพิ่ม 30,000 วอน หรือประมาณ 810 บาท นอกจากนี้ผู้ที่อยู่ใน 84 ชุมชนชนบทและประมงที่มีปัญหาประชากรลดลงจะได้รับเพิ่ม 50,000 วอน หรือประมาณ 1,350 บาท  อย่างไรก็ตาม ชาวต่างชาติจะไม่รวมอยู่ในโครงการนี้ ยกเว้นผู้ถือถิ่นพำนักถาวร ผู้ที่สมรสกับชาวเกาหลี และผู้ที่ได้รับการรับรองสถานะผู้ลี้ภัย รายงานข่าวระบุว่า การแจกเงินรอบแรกจะดำเนินการต่อเนื่องเป็นเวลา 8 สัปดาห์ ไปจนถึงวันที่ 12 กันยายน 2568 โดยรัฐบาลจะเปิดระบบให้ประชาชนเลือกรูปแบบการรับเงินผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของรัฐบาลท้องถิ่น ทางด้านนายคิม มินแจ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยของเกาหลีใต้และหัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจฯ ระบุว่า รัฐบาลจะดำเนินมาตรการนี้ด้วยความรอบคอบ เพื่อให้เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจและช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนได้อย่างแท้จริง ขณะที่รัฐบาลยังมีแผนแจกเงินรอบที่สองระหว่างวันที่ 22 กันยายน – 31 ตุลาคม 2568 โดยกลุ่มผู้มีรายได้ 90% แรกของประเทศจะได้รับเงินเพิ่มอีก 100,000 วอน หรือประมาณ 2,700 บาท ขณะที่เกณฑ์การพิจารณาสิทธิจะอิงจากระดับรายได้ตามข้อมูลเบี้ยประกันสุขภาพ โดยจะมีการประกาศรายละเอียดในช่วงเดือนกันยายน. Source link

ชาย 2 คนพยายามลงไปช่วยวัยรุ่นทุพพลภาพจมน้ำในจังหวัดทางใต้ของญี่ปุ่น แต่พลาดท่าจมน้ำเสียชีวิตเสียเอง ส่วนวัยรุ่นได้รับความช่วยเหลือปลอดภัย สำนักข่าวเจแปน ทูเดย์ รายงานว่า ชาย 2 คนอายุ 42 ปี กับ 18 ปี จมน้ำเสียชีวิตในแม่น้ำสายหนึ่งในเมืองคามิคัตสึ จังหวัดโทคุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (5 ก.ค. 2568) หลังจากกระโดดลงไปเพื่อช่วยเหลือวัยรุ่นอีกคนที่กำลังประสบปัญหา ตามการเปิดเผยของตำรวจ ชายผู้เสียชีวิตทั้งสองคนมีความเกี่ยวข้องกับศูนย์สนับสนุนเด็กทุพพลภาพในจังหวัดโทคุชิมะ โดยชายวัย 42 ปีเป็นสมาชิกศูนย์ ส่วนชายวัย 18 ปีเคยเป็นผู้ใช้บริการศูนย์แห่งนี้ ในวันเกิดเหตุ คนประมาณ 10 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่กับผู้ใช้บริการของศูนย์ เดินทางไปตั้งแคมป์ข้างแม่น้ำคัตสึอุระ (Katsuura) แต่ในช่วงก่อน 14.00 น. วัยรุ่นชายคนหนึ่งในกลุ่มประสบปัญหาหลังจากลงไปในแม่น้ำ ทำให้ชายทั้งสองคนพยายามลงไปช่วย แต่พวกเขากลับถูกกระแสน้ำพัดพาไป เมื่อตำรวจกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึง พวกเขาก็พบชายทั้งสองคนในสภาพไม่ตอบสนอง จึงพาทั้งคู่ส่งโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม 2 ชั่วโมงต่อมาทั้งคู่ก็ได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิต ส่วนวัยรุ่นชายที่ประสบปัญหาในแม่น้ำ ได้รับความช่วยเหลืออย่างปลอดภัย Source link

บุรีรัมย์ สำนักพุทธฯ-เจ้าคณะอำเภอ รุดตรวจสอบปมภาพหวิวพระนักเทศน์ชื่อดัง ล่าสุดพบรอยสักที่แผ่นหลังตรงกัน “หลวงพ่อมหาน้อย” ยอมรับเป็นรูปตัวเองจริง แต่ถ่ายไว้นานแล้ว พร้อมยืนยันอยู่รูปเดียว ไม่ได้มีบุคคลอื่นอยู่ด้วย และไม่ได้มีความสัมพันธ์ชายรักชายตามที่เพจดังโพสต์กล่าวอ้าง จากกรณีเพจ CSI LA มีการนำภาพชายคล้ายพระสงฆ์ในลักษณะเปลือยกายภายในห้องส่วนตัวหลายกิริยาไปโพสต์ อ้างว่ามีคนร้องเรียนผ่านเพจ เป็นภาพหลุดของพระรูปหนึ่งที่มีใบหน้าและรูปร่างคล้ายกับพระนักเทศน์ชื่อดังจากจังหวัดบุรีรัมย์ ต่อมา “หลวงพ่อมหาน้อย” พระนักเทศน์ชื่อดังของจังหวัดบุรีรัมย์ เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์สวนธรรมวารี อยู่ที่ ต.โนนดินแดง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ได้มอบอำนาจให้นายสุรินทร์ ทาซ้าย ทนายความไปแจ้งความดำเนินคดีต่อ พ.ต.ต.เสนีย์ ฉิมงาม สารวัตร (สอบสวน) สภ.โนนดินแดง เพื่อต้องการเอาผิดกับเพจ CSI LA ฐานหมิ่นประมาท และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 6 กรกฎาคม 2568 พระครูนิเทศธรรมคุณ เจ้าอาวาสวัดโนนดินแดงใต้ เจ้าคณะอำเภอโนนดินแดง พร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดบุรีรัมย์ คณะสงฆ์ในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โนนดินแดง ได้ลงพื้นที่ไปยังวัดที่หลวงพ่อมหาน้อย เจ้าอาวาสจำวัดอยู่ แต่เนื่องจากหลวงพ่อมหาน้อยยังอยู่ต่างประเทศ จึงได้มีการพูดคุยสอบถามข้อมูลเบื้องต้นผ่านทางโทรศัพท์มือถือ โดยเจ้าคณะอำเภอโนนดินแดง ระบุว่า จากการพูดคุยกับหลวงพ่อมหาน้อย ผ่านทางมือถือ ซึ่งในรูปที่ปรากฏในโซเชียลที่มีการเผยแพร่ มีรอยสักอยู่ด้านหลัง จึงให้หลวงพ่อถ่ายรูปแผ่นหลังมาให้ดู ก็พบว่ามีรอยสักตรงกัน ซึ่งหลวงพ่อมหาน้อย ก็ยอมรับว่าเป็นรูปของหลวงพ่อจริง เป็นภาพที่ถ่ายไว้ในมือถือนานแล้ว และยืนยันว่าอยู่รูปเดียว ไม่ได้มีบุคคลอื่นอยู่ด้วย และไม่ได้มีสัมพันธ์กับใครตามที่เพจกล่าวพาดพิง โดยทางหลวงพ่อมหาน้อย จะกลับจากต่างประเทศมาถึงไทยวันที่ 8 ก.ค. 68 จะมาชี้แจงด้วยตัวเอง ดังนั้นวันที่ 9 ก.ค. 68 ทางสำนักพุทธศาสนา คณะสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะมาร่วมกันสอบถามข้อเท็จจริงจากหลวงพ่อมหาน้อยอีกครั้ง เพื่อให้โอกาสหลวงพ่อได้มาชี้แจงด้วยตัวเอง เพื่อความเป็นธรรม ส่วนเรื่องที่เพจระบุว่าในวัดมีบุคคลเข้าไปมั่วสุมสิ่งเสพติด ก็จะมีการตรวจสอบกรณีนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งทุกอย่างก็ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน Source link

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยืนยันมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 43 ราย รวมถึงเด็ก 15 ราย จากเหตุน้ำท่วมฉับพลันทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงค้นหาผู้ที่ตั้งแคมป์ นักท่องเที่ยว และผู้อยู่อาศัยที่ยังสูญหายอย่างเร่งด่วน ที่รวมถึงเด็ก 27 คน เจ้าหน้าที่เผยว่าจำนวนผู้เสียชีวิตน่าจะสูงกว่านี้ เนื่องจากเขตอื่นๆ ในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม จนถึงตอนนี้สามารถช่วยเหลือผู้คนได้มากกว่า 850 ราย รวมถึงผู้ที่เกาะอยู่บนต้นไม้ หลังจากที่พายุฝนกระทันหันทำให้เกิดฝนตกหนักถึง 380 มิลลิเมตร ในพื้นที่รอบแม่น้ำกัวดาลูป  เจ้าหน้าที่เมืองเคอร์วิลล์ กล่าวว่า ในจำนวนผู้ที่สูญหายมีเด็กหญิง 27 ราย จากค่ายฤดูร้อนแคมป์มิสติก และอาจมีคนอื่นๆ อีกนอกเหนือจากนั้น  ภัยพิบัติเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเช้าวันศุกร์ (4 ก.ค.) โดยฝนที่ตกหนักกว่าที่คาดการณ์ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำพุ่งสูงเกือบ 9 เมตรอย่างรวดเร็ว ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่าสถานการณ์ฉุกเฉินน้ำท่วมฉับพลันในเขตเคอร์ เคาน์ตี้ ได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยส่วนใหญ่เกิดจากพายุฝนฟ้าคะนองที่ทำให้เกิดฝนตกหนักมากกว่า 300 มม. ซึ่งคิดเป็นครึ่งหนึ่งของปริมาณน้ำฝนที่ตกในพื้นที่ดังกล่าวในรอบปีปกติ แดน แพทริก รองผู้ว่าการรัฐเท็กซัส  กล่าวว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่ทราบแน่ชัดเดินทางมายังพื้นที่นี้เพื่อร่วมฉลองวันชาติสหรัฐฯ บริเวณริมแม่น้ำ นายแพทริกกล่าวว่า ค่ายฤดูร้อนสำหรับเด็กผู้หญิงที่ก่อตั้งมาเกือบศตวรรษ มีเด็กราว 700 คนในช่วงเวลาที่เกิดน้ำท่วม ส่วนค่ายเด็กผู้หญิงอีกแห่งหนึ่งคือ Heart O’ the Hills กล่าวบนเว็บไซต์ว่า เจ้าของร่วมของค่ายเสียชีวิตจากน้ำท่วม แต่ไม่มีนักท่องเที่ยวอยู่ที่นั่น เกร็ก แอ็บบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสกล่าวในการแถลงข่าวว่า เขาได้ขอให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในประกาศภัยพิบัติ ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลกลางสามารถให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบได้ ด้านคริสตี้ โนเอม รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ กล่าวว่าทรัมป์จะปฏิบัติตามคำร้องขอ ก่อนหน้านี้ในวันเสาร์ ทรัมป์กล่าวว่าเขาและเมลาเนีย ภริยา กำลังสวดภาวนาให้กับเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย เขากล่าวบนโซเชียลมีเดียว่า “เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่กล้าหาญของเราอยู่ในพื้นที่และทำในสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีที่สุด”  ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้ระบุแผนการที่จะลดบทบาทของรัฐบาลกลางในการตอบสนองต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยปล่อยให้รัฐต่างๆ แบกรับภาระมากขึ้นเอง วิดีโอที่โพสต์ทางออนไลน์แสดงให้เห็นแท่นคอนกรีตเปล่าๆ ซึ่งเคยเป็นบ้านเรือนและกองเศษหินที่กองอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ดึงผู้อยู่อาศัยออกจากหลังคาบ้านและต้นไม้ บางครั้งต้องผูกโซ่มนุษย์เพื่อดึงผู้คนขึ้นมาจากน้ำท่วม  เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่าน้ำท่วมรุนแรงเกิดขึ้นก่อนรุ่งสางของวันศุกร์โดยแทบไม่มีการเตือนล่วงหน้า ทำให้ทางการไม่สามารถออกคำสั่งอพยพล่วงหน้าได้ เนื่องจากแม่น้ำกัวดาลูปเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็วเหนือระดับน้ำท่วมใหญ่ภายในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง โนเอมกล่าวว่าการเฝ้าระวังน้ำท่วม “ระดับปานกลาง” ที่ออกเมื่อวันก่อนโดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติไม่สามารถคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักได้อย่างแม่นยำ และกล่าวว่ารัฐบาลทรัมป์กำลังดำเนินการปรับปรุงระบบดังกล่าว. Source link

(เครดิตภาพ The San Antonio Express-News) เหตุน้ำท่วมฉับพลันหลายจุดในภาคกลางของรัฐเท็กซัส ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 27 ศพ เป็นเด็กด้วย 9 ราย ขณะที่มีผู้สูญหายอีกหลายสิบคน รวมถึงเด็กๆ ที่ค่ายฤดูร้อน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ก.ค. 2568 เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้แล้วอย่างน้อย 27 ศพ รวมถึงเด็ก 9 ราย หลังเกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลันหลายจุดในพื้นที่ตอนกลางของรัฐเท็กซัส รวมถึงที่ “แคมป์ มีสติก” (Camp Mystic) ค่ายฤดูร้อนสำหรับเด็กผู้หญิง และมีเด็กสูญหายไปหลายสิบคน เหตุน้ำท่วมฉับพลันเริ่มขึ้นในช่วงเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา ในจุดที่ห่างจากเมืองซานอันโตนิโอไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 65 ไมล์ หลังจากฝนตกหนักจนทำให้น้ำในแม่น้ำกัวดาลูเป (Guadalupe) เอ่อล้นตลิ่ง น้ำท่วมในเขตเคอร์ เคาน์ตี รัฐเท็กซัส นายดัลตัน ไรซ์ ผู้จัดการเมืองเคอร์วิลล์ (Kerrville) กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อเช้าวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ที่แคมป์ มีสติก ซึ่งตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำกัวดาลูเป มีเด็กสูญหายไป 27 คน อย่างไรก็ตาม แม่ของ ด.ญ.เจนี ฮันต์ วัย 9 ขวบ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สูญหาย บอกกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า ลูกสาวของเธอเสียชีวิตแล้ว ด้านนายแลร์รี เลธา นายอำเภอเขตเคอร์เคาน์ตี (Kerr County) กล่าวในงานแถลงข่าวเดียวกันว่า เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือหรืออพยพผู้ประสบภัยได้แล้วมากกว่า 850 คน นับตั้งแต่เช้าวันศุกร์ และพวกเขาจะไม่หยุดจนกว่าจะพบผู้ประสบภัยคนสุดท้าย ขณะเดียวกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุผ่าน X ในวันเสาร์ว่า รัฐบาลของเขากำลังทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐเท็กซัส เพื่อรับมือกับน้ำท่วม โดยน.ส. คริสตี โนเอม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ จะเดินทางเยือนเท็กซัสในเร็วๆ นี้ เจ้าหน้าที่ใช้สุนัขดมกลิ่นค้นหาผู้สูญหาย ที่เมืองฮันต์ ใกล้แม่น้ำกัวดาลูเป อนึ่ง หลายพื้นที่ในภาคกลางของรัฐเท็กซัสเผชิญฝนตกหนักปริมาณน้ำฝนเทียบเท่า 1 เดือนภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันหลายแห่ง รวมถึงที่เมืองฮันต์ ซึ่งเป็นที่ตั้งแคมป์ มีสติก และอยู่ใกล้เมืองเคอร์วิลล์ รับน้ำฝนถึง 6.5 นิ้วภายในเวลา 3 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า นี่เป็นเหตุการณ์ที่ 100 ปี จะเกิดขึ้นสักครั้ง สำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติ (NWS) พยากรณ์ว่าจะมีฝนตกลงมาในรัฐเท็กซัสเพิ่มอีก และออกคำสั่งเฝ้าระวังน้ำท่วมตลอดช่วงกลางวันของวันเสาร์ Source link