หนึ่งวันลองเป็นคุณหนูนั่ง BYD Denza D9 รถ MPV ไฟฟ้า 100% หรูหรา เบาะนวดไฟฟ้านั่งสบาย ตู้เย็นดีงาม แช่อะไรก็เริ่ด
ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสไปร่วมทดสอบ BYD Denza D9 รถ MPV ไฟฟ้า 100% ที่หลายคนกำลังจับตามองอยู่ในขณะนี้ ไมว่าจะเป็นตัวราคาที่สามารถจับต้องได้ และมาพร้อมกับเทคโลโลยีที่น่าสนใจ โดยมีรายละเอียดดังนี้
ราคา Denza D9 2024
– Denza D9 Premium ราคา 1,999,900 บาท
– Denza D9 Performance AWD ราคา 2,699,900 บาท
ขุมพลัง DENZA D9 Premium ขับเคลื่อนล้อหน้า
– ให้กำลังสูงสุด 230 กิโลวัตต์
– แรงบิดรวมสูงสุด 360 นิวตัน-เมตร
– ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ทำได้ 600 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC)
– อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลา 9.5 วินาที
– ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท
– ระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบมัลติลิงก์
– ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายอากาศทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ขุมพลัง DENZA D9 Performance AWD ขับเคลื่อน 4 ล้อ
– ให้กำลังสูงสุด 275 กิโลวัตต์
– แรงบิดรวมสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร
– ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ทำได้ 580 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC)
– อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลา 6.9 วินาที
– ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท
– ระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบมัลติลิงก์
– ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายอากาศทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
– ติดตั้งระบบกันสะเทือนปรับอัตโนมัติตามความเร็วแบบ FSD
– ติดตั้งระบบกันสะเทือนอัจฉริยะ DiSus-C ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ BYD ในประเทศไทย
สิ่งที่น่าสนใจใน DENZA D9
– ห้องโดยสารเพิ่มความหรูหราในการสัมผัสสำหรับรุ่น Performance AWD ด้วยเพดานห้องโดยสารบุด้วยหนังกลับแบบพรีเมียม และเพดานห้องโดยสารแบบผ้าในรุ่น Premium
– ซันรูฟพร้อมม่านบังแดดสำหรับห้องโดยสารด้านหน้า และ หลังคากระจกขนาด 1.1 ตารางเมตร พร้อมม่านบังแดดเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
– หน้าจอสัมผัสระบบมัลติมีเดียสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าขนาด 15.6 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
– ระบบเครื่องเสียงพรีเมียมแบบ Hi-Fi Class Dynaudio พร้อมสำโพง 14 ตำแหน่ง
– เบาะนั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมระบบพนักพิงดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง
-ระบบจดจำตำแหน่งที่นั่งเบาะคนขับ
– เบาะนั่งโดยสารแถวที่สอง ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทางพร้อมระบบพนักพิงดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง โดยเบาะที่นั่งทั้งสองแถวมาพร้อมระบบนวดไฟฟ้าและระบบระบายอากาศ
– ระบบจดจำตำแหน่งเบาะนั่งโดยสารแถวที่สอง หน้าจอ LCD แบบมัลติฟังก์ชันบริเวณที่พักแขนแถวที่สองสำหรับควบคุมฟังก์ชันต่างๆ
– เบาะนั่งยังมาพร้อมกับพนักพิงศรีษะที่สามารถปรับระดับสูงต่ำ และการปรับทรงให้เข้ากับสรีระศรีษะได้ 2 ทิศทางสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า และ ปรับทรงให้เข้ากับสรีระศรีษะ 4 ทิศทางสำหรับผู้โดยสารแถวที่สอง
– ระบบตู้เย็นภายในรถยนต์ความจุ 7.5L ที่สามารถปรับช่วงองศาได้ตั้งแต่ -6 จนถึง 50 องศา และที่วางแก้วรอบคัน 12 ใบ ครอบคลุมทุกที่นั่ง
– ระบบปรับอากาศแบบอิสระ 3 โซน ผู้ขับขี่ ผู้โดยสารตอนหน้าและห้องโดยสารตอนหลัง พร้อมระบบกรองอากาศ IONIZER และระบบกรองฝุ่น PM2.5 แบบประสิทธิภาพสูง (CN95)
– ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย 3 จุด (กำลังสูงสุด 50W) ประกอบด้วย 1 จุดในห้องโดยสารตอนหน้า และ 2 จุด สำหรับเบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่สอง
– แหล่งจ่ายไฟรอบคัน 7 จุด
บทสรุป: การเดินทางในครั้งนี้เราปลอมตัวเป็นคุณหนูท่านหนึ่ง เป็นคนนั่งแทนที่จะขับเอง โดยพี่คนที่ขับก็มาบรีฟสั้นๆ แบบได้ใจความว่า ด้วยความเป็นรถ MPV ที่ใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดก็ถือว่าขับได้ที่ แต่ช่วงเบรกอาจจะต้องกะระยะนิดหนึ่ง ช่วงล่างมีย้วยๆ นิดๆ ตามสไตล์ของรถไฟฟ้าจีนที่ถูกออกแบบมาให้เน้นนุ่มนวล ซึ่งเรื่องช่วงล่างเราก็เห็นด้วยกับพี่คนขับ
จากการเป็นผู้นั่งเราชอบตัว DENZA D9 รุ่น Performance มากกว่าเพราะตัวเบาะออกแบบมาได้นั่งสบาย คนตัวใหญ่ๆ นั่งสบายมากกว่าตัว Premium ที่ออกแบบมาพอดีช่วงตัวมากเกินไป
โดยสิ่งที่ชอบมากที่สุดคือ เบาะนวดไฟฟ้าของตัว Performance ที่สามารถเลือกการนวดได้หลากหลายรูปแบบ และปรับระดับความเบาความแรงได้มากกว่าตัว Premium เรียกได้ว่านั่งสบายๆ 8 ชั่วโมงก็นวดไปนั่งไปเรื่อยๆ
จุดสังเกตด้วยความที่เป็นรถไฟฟ้าจึงได้ยินเสียงรอบข้างค่อนข้างชัด โดยเฉพาะเสียงมอเตอร์ไซค์แง๊นๆ เข้ามารบกวนการนอนหลับของเรา แนะนำว่าอาจจะต้องเปิดเพลงคลอไปก็พอจะตัดเสียงรบกวนข้างนอกได้บ้าง
มาถึงไฮไลต์ที่ไม่พูดไม่ได้ ตู้เย็นที่เย็นจริงเย็นจังปรับอุณหภูมิได้ถูกใจทำโค้กวุ้นมาดื่มได้ แต่วันนั้นเราเลือกที่จะดื่ม Sparkling water ฟีลคุณหนูอยู่ปารีส แต่จริงๆ นั่งดื่มน้ำอยู่บน DENZA D9 ที่มุ่งหน้าสู่วิภาวดีแทนฌ็องเซลิเซ่นั่นเอง