นักโทษกว่า 6,000 คน หลบหนีออกจากเรือนจำความมั่นคงสูงในเมืองหลวงโมซัมบิก หลังเกิดเหตุจลาจลและความรุนแรงไปทั่วประเทศ จากความไม่พอใจผลเลือกตั้ง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายแบร์นาร์ดิโน ราฟาเอล ผู้บัญชาการตำรวจของโมซัมบิก เปิดเผยในวันที่ 26 ธ.ค. 2567 ว่า มีนักโทษอย่างน้อย 6,000 คน หลบหนีออกจากเรือนจำกลาง กรุงมาปูโต เมืองหลวงของประเทศ เมื่อวันคริสต์มาสที่ผ่านมา ท่ามกลางเหตุจลาจลและความรุนแรงหลังการเลือกตั้ง ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศ
นายราฟาเอลระบุว่า มีนักโทษ 33 คนเสียชีวิต บาดเจ็บอีก 15 คน ระหว่างการเผชิญหน้ากับกองกำลังความมั่นคง
นักโทษกลุ่มดังกล่าว หลบหนีออกจากเรือนจำความมั่นคงสูงแห่งนี้ระหว่างเกิดการประท้วงรุนแรง ในกรุงมาปูโต หลังสภารัฐธรรมนูญออกมายืนยันว่า พรรคเฟรลิโม (Frelimo) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล เป็นผู้คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อ 9 ต.ค. โดยมีรถตำรวจหลายคัน, สถานี และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ถูกจุดไฟเผาได้รับความเสียหาย
การหลบหนีเริ่มขึ้นในช่วงกลางวัน หลังกลุ่มผู้ประท้วงมาชุมนุมกันใกล้เรือนจำ ทำให้นักโทษบางคนฉวยโอกาสแย่งอาวุธจากเจ้าหน้าที่ และเริ่มปล่อยนักโทษคนอื่นๆ
“ข้อเท็จจริงก็คือ ในเรือนจำนี้มีผู้ก่อการร้ายที่ถูกตัดสินความผิดแล้วอยู่ 29 คน และทั้งหมดหลบหนีไปแล้ว เรากังวล ทั้งในฐานะประเทศ, ชาวโมซัมบิก, สมาชิกกองกำลังป้องกันและความมั่นคง” นายราฟาเอลกล่าว
“พวกเขา (ผู้ประท้วง) โวยวาย และเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษที่กำลังรับโทษอยู่ออกจากเรือนจำ” นายราฟาเอลระบุ และเสริมว่า การประท้วงทำให้กำแพงของเรือนจำพังถล่ม ส่งผลให้นักโทษสามารถหลบหนีออกไปได้
ผู้บัญชาการตำรวจโมซัมบิกยังเรียกร้องให้นักโทษที่หลบหนีไปกลับมามอบตัว และขอให้ประชาชนแจ้งข้อมูลคนร้ายหลบหนีแก่เจ้าหน้าที่หากพบตัว
ทั้งนี้ มีคลิปวิดีโอหลายคลิปบนโลกออนไลน์ที่แสดงให้เห็นภาพช่วงเวลาที่ นักโทษออกจากเรือนจำ ขณะที่คลิปอื่นๆ มีภาพเจ้าหน้าที่กองทัพและผู้คุม พยายามจับตัวนักโทษแหกคุกกลับไปอีกครั้ง
ในคลิปวิดีโอหนึ่ง นักโทษที่ยังมีกุญแจมือสวมอยู่ที่ข้อมือขวา บอกว่า เขาถูกคุมขังในแผนกควบคุมวินัยของเรือนจำแห่งนี้ และได้รับการปล่อยตัวออกมาโดยนักโทษคนอื่นๆ